น้ำหนักของแสงและสี

         "นักเรียนของผมกรุณาขยับเข้าใกล้อีกนิดเกรงว่าเสียงจะไม่ดังพอไปถึงแถวหลัง วันนี้เรามาทำเวลาให้ช้าลง ทำตัวให้ง่ายขึ้น นั่งเป็นเพื่อนกับสนามหญ้ากับต้นไม้ ทอดสายตาส่งออกไปมองดูแสงแดด และขอบคุณดวงอาทิตย์ที่ให้การมองเห็นที่แจ่มชัดในวันนี้ ภาวนาให้แสงแดดอยู่กับเราให้นานที่สุด เพื่อจะได้มองดูแสงที่ฟุ้งกระจายและสาดส่องไปบนทุกสิ่งที่อยู่เบื้องหน้า แสงสว่างให้มิติของการมองเห็นที่สมบูรณ์ ให้ทัศนียภาพที่มีชีวิตชีวา"

         ผมอยากให้จิตใจพวกเขาผ่อนคลาย เพลิดเพลิน และเบิกบานก่อนการลงมือวาดภาพ ทุกคนจำเป็นต้องละทิ้งความมุ่งหวัง ละวางเป้าหมายที่มีอยู่ในใจ การวาดภาพเป็นการงานที่ผ่อนคลาย เป็นความว่าง เป็นปกติ เป็นความธรรมดา เป็นธรรมชาติ อย่าคาดหวังสิ่งใดทั้งจากธรรมชาติและตัวเอง

         การวาดภาพสีน้ำมีระเบียบของตัวเอง มีเงื่อนไข มีข้อยกเว้น มีตัวตนของน้ำและเนื้อสี สำหรับการเริ่มต้น สิ่งแรก คือการทำความเข้าใจกับเงื่อนไขกับข้อจำกัดเหล่านี้ เรียนรู้ มองดู และสังเกต สิ่งที่ปรากฏขึ้นบนกระดาษขาว น้ำ เนื้อสี กระดาษและพู่กัน มีไมตรีต่อกัน ขอให้เข้าใจในความสัมพันธ์นั้น

         การเรียนรู้น้ำหนักของแสงและสีในธรรมชาติเพื่อที่ถ่ายทอดลงเป็นภาพสีน้ำ ต้องมีกระบวนการ มีขั้นตอน ทั้งในการปฏิบัติ และการเรียนรู้

น้ำหนักของแสงและสี

         เมื่อกล่าวถึงน้ำหนัก อย่าไปคิดถึงสี ในน้ำหนักไม่มีสีหรือมีสี มันเป็นเพียงน้ำหนักที่เกิดจากแสง ของดวงอาทิตย์ที่สาดส่อง ที่ให้สายตาของการมองเห็น

         เมื่อกล่าวถึงสี สีที่มองเห็นในธรรมชาตินั้น คืออณูของแสง ก่อนที่จะมาเป็นสีต้องมาจากแสง สีวัตถุ และน้ำหนักของสีวัตถุที่อยู่ในเงามืด

          ภาพที่บอกเรื่องราวบนกระดาษขาว คือการรวมกันของน้ำหนัก ตั้งแต่น้ำหนักอ่อนไปสู่น้ำหนักเข้ม ตั้งแต่แสงสว่างไปสู่เงามืด น้ำหนักจะเกิดขึ้นจาก สีใด ใด ก็ได้ อย่าให้ความสำคัญกับสี ในขณะที่เราต้องการเข้าใจเรื่อง น้ำหนัก ความเข้าใจเรื่องการใช้สีต้องแยกออกไปกล่าว เป็นอีกกรณีหนึ่ง ในเบื้องต้นของการวาดภาพหากยังไม่เข้าใจเรื่องน้ำหนัก ความเข้าใจในเรื่องสีก็จะไม่เกิดขึ้น