สี่ทุ่มกว่าแล้ว ฟากน้ำฝั่งตรงข้ามยังสว่างอยู่ ดูแปลกตา
กลุ่มเมฆขาวลอยต่ำ สุกสว่างราวกับมีแสงในตัวเอง
หรือดูดซับแสงไฟจากเมืองไว้ในตัวมัน
คงเป็นดวงไฟจำนวนมหาศาล...ที่ทำให้ท้องฟ้าสว่างได้ขนาดนั้น หรือเป็นแสงแห่งจันทร์ที่ซ่อนตัวอยู่ที่ใดสักแห่งหนึ่งบันดาลให้เกิดขึ้น
บ้านริมน้ำยังคงมืดอยู่ และจะพลันเงียบสนิท หากปิดเพลงที่เปิดทิ้งไว้
ลำน้ำคงนิ่งสนิท ถ้าไม่มีเรือหาปลาทำน้ำกระเพื่อมเข้ามากระทบฝั่ง ระลอกน้ำนำพาแสงสว่างอันไร้ที่มาเข้ามาถึงท่าน้ำ
เสียงเพลงยังบรรเลงต่อไป ...
ฟากฟ้าฝั่งตรงข้ามยังสว่างอยู่อย่างไร้เหตุผล ไร้ที่มา ไม่ต่างจากเสียงเพลงที่ดังอยู่อย่างไร้ผู้ฟัง
ร่ำบรรเลงอยู่อย่างโง่เขลา พร่ำพรรณนาอย่างเลื่อนลอย เพ้อฝัน
แสงจันทร์กับเสียงเพลงในค่ำคืนนี้ ดูไม่ต่างกัน
ในคืนที่ไม่มีผู้ใดเฝ้าดู แสงไฟจากเมืองมืดไป
ในคืนที่ไม่มีผู้ฟัง เพลงที่เปิดทิ้งไว้เงียบลง
ท้องฟ้ายังคงสว่าง ด้วยแสงจันทร์ที่ซ่อนดวงอยู่อย่างมิดชิด
ให้แสงนวลกระจ่าง งดงาม เพ้อฝัน ลี้ลับ ยากจะเข้าใจ
ดั่งความปรารถนา...ที่ไร้เจตนา