จดหมายเปิดผนึกฉบับที่ 29
รูปรอยของชีวิต

ความปรารถนาอันเลื่อนลอย
ความฝันอันพ้นมือเอื้อม
ความจริงอันอยู่แสนไกลห่าง

วันวัน...ฉันก็ได้แต่ต่อสู้อยู่กับตัวเอง
ใครเลยจะต้านความปรารถนาที่อัดแน่นอยู่ภายใน ที่อยู่ลึกกลางใจ เหมือนลึกลงใต้ห้วงเหว เหมือนอยู่สูงสุดยอดเขาตระหง่าน เหมือนอยู่ไกล โพ้นไร้ขอบเขต วนเวียนเป็นวงล้อมหมุนรอบตัวเอง หมุนรอบกายธาตุที่รอวันบุบสลาย

วันวัน...ฉันก็ได้แต่เฝ้าเตือนตัวเอง เฝ้าบอกตัวตนที่ก่อตัวอยู่อย่างลี้ลับ ห่างพ้นสายตา ห่างพ้นมือสัมผัส เวียนวนทิ่มตำใจใฝ่รู้ ตำหนิความคิดที่เนืองนอง รินไหลไปกับแรงปรารถนา เรี่ยราดไปบนพื้นต่างระดับที่เต็มไปด้วยริ้วรอย ไหลต่ำลงดั่งสายน้ำที่ไร้ทางเลือกไหลไป ตามกระแสความคิด ความรู้สึก
เป็นมวลแห่งอารมณ์ เป็นกลุ่มก้อนอย่างมวลหมู่เมฆที่ก่อตัวแล้ว ก่อตัวเล่า ก่อเป็นรูปความทะยานอยาก กระพือพัด โหมซัด กระหน่ำอยู่ภายใน

ไม่มีประโยชน์อันใดที่ต้องคอยข่มขู่ใจไม่ให้หวั่นไหว หวาดกลัว สู้เผชิญกับทุกสิ่งที่หวาดหวั่น ฟันฝ่ากับทุกอย่าง ที่ประจักษ์ ที่ประจันอยู่ตรงหน้า ชีวิตไม่มีหน่วยนับของความถูกต้องหรือความผิดพลาด ด้วยว่าความคิดฝันมักนับไปข้างหน้า ต่างกับความจริงที่นับไปข้างหลัง ชีวิตไม่มีผลลัพธ์เป็นผลกำไรหรือขาดทุน

นิยามของชีวิตทำให้ห่างไกลจากชีวิต ความคิดอันซับซ้อน ซ่อนเร้น ทะยานไปสู่ทางตันของความจริง เป็นวังวนของอารมณ์ ความรู้สึกที่พึงใจอยู่กับความฝันในจินตนาการ

เมื่อความปรารถนาแจ่มชัด
เมื่อความฝันอยู่แค่เอื้อมมือคว้า
เมื่อความจริงประจักษ์อยู่ตรงหน้า

วันวัน...ฉันก็ได้แต่เฝ้าดู เฝ้ามองความคิด
มองหาวิถีที่ตรงทาง เพื่อนำพาจิตใจอันกว้างไกลไร้ขอบเขต ประคับประคองกายที่รอวันสิ้นสลาย สูญหายไปในอากาศธาตุ เวิ้งว้างราวฝุ่นผงในฟากฟ้า ดั่งใบไม้ที่พลัดพรากจากกิ่ง โอนเอนไหวไม่คงที่ ไม่เหลือช่องว่างให้แก้ไข ให้ทบทวน เป็นใบไม้หลุดขั้ว ปลิวเคว้งคว้าง อยู่กลางห้วงหาวอันน่าหวาดหวั่น ท่ามกลางพายุที่เหี้ยมโหด

ไม่มีสิ่งใดคงที่ให้ทบทวน ไม่มีสิ่งใดคงอยู่ให้เริ่มใหม่ ชีวิตเป็นเพียงมวลแห่งความปรารถนา เป็นเพียงพลังแห่งสรรพสิ่งที่กอปรขึ้นเป็นกายที่รอวันสิ้นสลายกอปรขึ้นเป็นใจที่เบิกบาน รอรับการดับสูญ

เป้ สีน้ำ
9 มิถุนายน 2553

000003
10 -07-53