จดหมายเปิดผนึก
ฉบับที่ 2
เป็นความจริงที่ว่า...
คนไม่สามารถอยู่กับการรอคอยได้ตลอดเวลา
ต่อเมื่อวันเวลาว่างเปล่าเราจึงรู้ว่ายังต้องการข่าวสาร
ฉันระมัดระวังทุกตัวอักษรที่ถูกเรียงร้อย
ระวังทุกประโยคที่สื่อสารออกไป ความรับผิดชอบต่อการเขียนเหนี่ยวรั้งเวลาไว้ได้
เหมือนงานไม้อันประณีตถูกทำอย่างบรรจง หนึ่งเซนติเมตรที่ขาดและเกินอาจทำให้เก้าอี้นั้นเสียรูปทรง
กระดาษทรายหยาบและละเอียดถูกเรียงลำดับขัดเกลา
จดหมายคือการพูดคุยที่เงียบที่สุด
เราจึงต้องอยู่โดยลำพังและเป็นอิสระ สมุดบันทึกที่มั่นใจว่าไม่ถูกแอบอ่านจะจรดปากกาลงได้อย่างสนิทใจ
ระยะเวลาอันสั้นแต่การพูดคุยยืดยาว
นาทีที่รวดเร็วซ่อนความหมายเชื่องช้า อยากให้กลับไปทบทวนข้อความข้างตู้ไปรษณีย์
' บทสนทนาของตัวอักษร สื่อสารความคิด ความเข้าใจ และมิตรภาพ ' ขอจงมั่นใจและเชื่อตามนั้น
เมื่อบานประตูเปิดแล้ว
เราจะเข้าหรือออกไม่มีสิ่งใดกั้นขวาง ไม่มีใครทักท้วง ทวงถามถึงนามจริงหรือนามแฝง
หากเราคิดได้ว่ามิตรภาพนั้นเติบโตด้วยอิสรภาพ และความไว้วางใจจำเป็นต้องใช้เวลา
บ้านย่อมมีรั้วกั้น
บางทีเราก็เกาะขอบรั้วคุยกับผู้ผ่านทาง เราจะทักทายกันข้างถนน ในบ้าน
นอกบ้าน ริมระเบียง นอกชาน เฉลียง ห้องรับแขก หรือห้องนอน ขึ้นอยู่กับความไว้วางใจและไมตรี
ผลที่ได้รับมาจากการได้ให้
โลกใหญ่ขึ้นตัวเราก็เล็กลง
แผ่นดินอันไพศาลไม่มีที่ยืนที่เป็นของเราเอง ถนนมากสายทำให้ง่ายต่อการหลงทาง
แขกเหรื่อมากหน้าแต่จดจำได้เพียงบางคน
|